The Mask(1994) เราก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากใดๆ เข้าหา เขาก็จะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเราเอง

The Mask(1994) เรื่องราวของหนุ่มพนักงานธนาคารอารมณ์ดี แต่อ่อนแออยู่ภายในไม่กล้าเผยความรู้สึกจริงๆ ออกไป ขี้แพ้ เลยมักถูกเอาเปรียบ แถมดวงก็ไม่ค่อยดี อยู่ห้องเช่าเล็กๆ กับหมาคู่ใจ แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เปลี่ยนไป เขาได้เจอหน้ากากไม้สีเขียว เมื่อใดที่เขาได้ใส่มัน จะทำให้ตัวตนที่ซ่อนอยู่ข้างในเผยออกมา กล้าทำในทุกสิ่งที่ใจปรารถนาและต้องการ แม้กระทั่งการเข้าหาหญิงสาวสุดเซ็กซี่ที่เขาหลงรัก
——————

หนังสร้างมาจากหนังสือการ์ตูนคอมมิค มันเลยดูเป็นแบบโคตรการ์ตูน แต่สนุกสนานเลยทีเดียว เป็นหนังอีกเรื่องในยุค 90 ที่เชื่อเลยว่า ยังจำกันได้ดี เสพความสนุก ความฮาล้วนๆ ไม่ต้องมาคิดอะไรมากมาย มีมุกล้อเลียนเพียบ ดูแล้วรู้สึกคลายเครียดได้เลย ไม่มีฉากไหนน่าเบื่อ ชอบเจ้าสุนัข ไมโล น่ารักแสนรู้จริงๆ
เป็นผลงานเรื่องแรกๆ ที่ทำให้ชื่อของ จิม แคร์รี่ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โด่งดังมากขึ้น แสดงได้รั่ว แอ็คติ้งล้นเกินเบอร์ เข้ากับตัว The Mask จริงๆ ถ้าไม่ใช่จิมก็ยังนึกไม่ออกว่าใครจะมารับบทนี้ได้บ้าง และพอหนังเข้าฉายก็ประสบความสำเร็จเกินคาด จากทุนสร้าง 23 ล้านเหรียญฯ แต่กลับทำเงินได้ถึง 351.6 ล้านเหรียญฯ เรียกว่ากำไรเนาะๆ (จนสร้างภาคต่อ Son of the Mask ในปี 2005 ยกชุดทั้งผู้กำกับและนักแสดง ลงทุนไป 100 ล้านเหรียญฯ แต่ทำเงินไปได้เพียง 59.9 ล้านเหรียญเท่านั้น คือขาดทุนยับเจ็บหนักมาก)
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คาเมรอน ดิแอซ เซ็กซี่สตาร์ตัวแม่ เป็นผลงานเรื่องแรกก็แจ้งเกิดทันที จุดขายคือความเซ็กซี่ เย้ายวนชวนมองจริงๆ แหละ แสดงได้ดึงดูดสายตา มีเสน่ห์ คิดดีไม่ได้เลย ถึงแม้หนังจะมีแต่ความสนุก แต่จริงๆ แล้วก็แฝงประเด็นดีๆ เกี่ยวกับการที่คนเรามักใส่หน้ากากเข้าหากัน ลับหลังเป็นอีกคน ไม่มีความจริงใจ เราจึงควรถอดหน้ากากออกเพื่อให้เขาเห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา แต่ในชีวิตจริง บางครั้งก็จำเป็นต้องใส่หน้ากากเข้าหาบางคน จะด้วยหน้าที่หรืออะไรก็ตาม ทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง โลกของการทำงานก็เป็นแบบนี้ แต่ถ้าใครที่ดีและจริงใจกับเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากใดๆ เข้าหา เขาก็จะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเราเอง 

Credit nung.io, nung2d.com