Pay It Forward (2000) เรื่องราวของ “เทรเวอร์ “ เด็กชายวัย 12 ขวบ อาศัยอยู่กับแม่ที่ติดเหล้าและไม่มีค่อยเวลาให้ ส่วนพ่อทิ้งครอบครัวไป ทำให้เขาต้องดูแลตัวเอง จึงเป็นเด็กที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว
วันหนึ่งคุณครูวิชาสังคมศึกษา ให้การบ้าน ให้นักเรียนไปคิดวิธีที่จะทำให้โลกดีขึ้น หรือการเปลี่ยนโลก (Change the World) ซึ่งเทรเวอร์ก็ได้คิดทฤษฎีหนึ่งขึ้นมา นั่นคือ ทฤษฎี Pay It Forward หรือการจ่ายล่วงหน้า หลักการคือ เขาจะช่วยเหลือคนสามคน และขอให้สามคนนั้นไปช่วยคนอื่นอีกสามคนต่อกันเป็นลูกโซ่ ไปเรื่อยๆ ก็จะมีคนทำความดีมากขึ้น โลกก็จะน่าอยู่และสงบสุขมากขึ้นนั่นเอง แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด!!
———————-
เป็นหนังสร้างแรงบันดาลใจ สร้างจิตสำนึกให้คนทำความดี สิ่งที่เด็กชายพบเจอ ไม่ได้โลกสวยอย่างที่คิด ไม่ง่ายเลยในการปฏิบัติตามทฤษฎีที่เขาคิด จริงอยู่ที่เขาช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่การที่ให้คนที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น ส่งต่อการช่วยเหลือไปอีก 3 คน มันก็ไม่ง่ายเช่นกัน แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า ทฤษฎีนี้จะสำเร็จหรือไม่ แค่อยากให้คนทำความดีต่างหาก สุดท้ายมันจะส่งต่อไปได้แค่ไหน ไม่มีใครบอกได้ จริงๆ แล้ว คุณครูไม่ได้คาดหวังถึงผลสำเร็จ เพียงแค่ต้องการให้เด็กๆ รู้จักคิดและลงมือทำ เรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง
เป็นหนังที่บังเอิญได้ดูแบบไม่ตั้งใจ ตอนเอารถเข้าศูนย์ ระหว่างรอ หนังเรื่องนี้ถูกเปิดไว้ รู้สึกน่าสนใจ น่าติดตามตั้งแต่เริ่ม มีเรื่องราวดราม่า ชีวิตที่ไม่ได้สวยหรู เป็นหนังที่ตั้งอยู่บนความเป็นจริง ไม่ได้โลกสวย ใครดูแล้วจะเข้าใจ และตอนนั้นดูไม่ทันจบ เลยกลับมาหาดูอีกรอบ ดูจบแล้วรู้สึกเลยว่า มันเป็นหนังดีจริงๆ
ทฤษฎี Pay It Forward เป็นแนวคิดที่ดี ถ้าส่งต่อมันได้เรื่อยๆ ตามที่เห็นในหนัง สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตจริงได้เลย แต่สิ่งสำคัญที่หนังต้องการมากกว่านั้น คือ ให้คนยึดมั่นในการทำความดี เพราะความดีจะทำให้คนจดจำเราไปตลอดกาล
Credit nung.io, nung2d.com